ไทยเสี่ยงพายุ ระวังจุดเกิดอ่าวไทย

นาร์กีส

พายุไซโคลนนาร์กีส ความรุนแรงระดับ 3 ถล่มประเทศพม่า มีผู้เสียชีวิต 22,000 คน สูญหายกว่า 4 หมื่น และไม่มีที่อยู่อาศัยอีกหลายแสนคน ประเทศไทย...อยู่ในข่ายรับความเสี่ยง

 

"นาร์กีสรุนแรงมาก...แถมมาเร็ว แค่ช่วงต้นฤดูฝน"ศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา บอก

ศุภฤกษ์

ช่วงนี้ เป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน ดังนั้น การก่อตัวพายุในรอบปีนี้ ก็จะเร็วตามไปด้วย ระดับความรุนแรงพายุที่เพิ่มขึ้น ชี้ชัดว่า...ภาวะสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย หรือทั้งโลก มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะอุณหภูมิน้ำทะเล ที่ทำให้พายุก่อตัวง่ายขึ้น

"การก่อตัวในต้นฤดูฝน ความชื้นมากทำให้ระดับความรุนแรง มีมากขึ้น ยิ่งสะสมในทะเลนาน โอกาสที่จะพัฒนา...ความรุนแรงก็มีมากขึ้นไปอีก"

พายุไซโคลนในโซนร้อน หรือพายุหมุนในโซนร้อน มีชื่อเรียกต่างกันไปตามถิ่นที่เกิด... เกิดในมหาสมุทรอินเดียและแอตแลนติกเรียกว่า เฮอร์ริเคน (Hurricane) เกิดในอ่าวเบงกอล เรียกว่า ไซโคลน (cyclone)
เกิดแถบนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย เรียกว่า วิลลี-วิลลี (Willy-willy), เกิดในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกว่า ไต้ฝุ่น (Typhoon) และเกิดในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เรียกว่า บาเกียว (Baguio)

พายุหมุนเขตร้อน ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเหนือผิวน้ำทะเล ในบริเวณเขตร้อนและเป็นบริเวณที่กลุ่มเมฆมาก โดยไม่ปรากฏการหมุนเวียนของลม หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เมื่ออยู่ในสภาวะที่เอื้ออำนวยจะพัฒนาจนปรากฏ ระบบหมุนเวียนของลม ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นลำดับ

ขณะเป็นพายุดีเปรสชัน ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางมีค่าไม่เกิน 62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่นับเป็นพายุหมุน...ทวีความแรงเป็นพายุโซนร้อนความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางมีค่าอยู่ ระหว่าง 63-172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ถ้าเป็นพายุหมุนเขตร้อน ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางจะมีค่าตั้งแต่ 118-239 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ศุภฤกษ์ บอกว่า ฝั่งทะเลอันดามัน...อ่าวเบงกอล มีพายุนาร์กีส สร้างความเสียหายหนักแล้ว หากย้อนไปช่วงเดือนที่ผ่านมา ก็มีพายุไต้ฝุ่นขนาดรุนแรง เกิดในทะเลจีนใต้

"ประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยง ต้องระมัดระวัง ติดตามลักษณะอากาศที่ก่อตัวเป็นพายุ และผลกระทบอย่างใกล้ชิด"

นาร์กีส

จุดเริ่มไซโคลนนาร์กีส ก่อตัวที่อินเดีย ค่อยๆขยับมากลางอ่าวเบงกอล ข้ามเข้าพม่า วิเคราะห์กันว่า จะออกมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ปรากฏว่า พอเข้าพม่าก็ขึ้นเหนือ จุดสลายตัวไซโคลนนาร์กีส อยู่ใกล้แนวชายแดนพม่า ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน

เนื่องจากภูมิประเทศฝั่งตะวันตก จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ไล่ลงมาถึงตาก อุทัยธานี นครสวรรค์มาจนถึงภาคใต้ เป็นแนวภูเขาตลอดแนวชายแดน

นาร์กีส...เข้ามาแล้วสลายตัวเร็ว เพราะภูเขาทำให้อ่อนกำลัง อีกสิ่งสำคัญ...ต้องติดตาม สิ่งแวดล้อมในตอนนั้นด้วยว่า มีปัจจัยอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาด้วยหรือเปล่า ถ้ามี... พายุจะฝ่อตัวเร็วขึ้น

"โอกาสที่จะเข้าประเทศไทยมีแน่...แต่ความรุนแรงจะน้อย"

ภูเขาเป็นกำแพงธรรมชาติ ลดความเสี่ยงด้านแรงปะทะโดยตรง แต่ต้องรับผลพวงของพายุ ปริมาณน้ำสะสมบนภูเขา อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม นี่ก็...อันตรายไม่น้อยไปกว่ากัน

เส้นทางการเดินทางพายุนาร์กีส จะบอกว่าผิดปกติหรือเปล่าคงบอกไม่ได้ พายุแต่ละลูก ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะอากาศ เราทำได้เพียงแต่เฝ้าติดตาม และคอยดูกันไป

การพยากรณ์ กรมอุตุฯ ประกาศตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ช่วงที่พายุเริ่มก่อตัว จากหย่อมความกดอากาศต่ำใกล้ๆอินเดีย และมีอีกชุดอยู่ที่อ่าวมะตะบัน สังเกตว่า ช่วงก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีฝนตกหนัก ก็มีผลมาจากตรงนี้

สถิติพายุไซโคลนเข้าสู่ประเทศไทย เฉลี่ยปีละ 3 ลูก เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนกระทั่งถึงเดือนธันวาคม ช่วงที่มีโอกาสเข้ามากที่สุดเดือนกันยายน-ตุลาคม

ในระยะเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน พายุหมุนในโซนร้อนจะมีแนวทาง เข้าสู่บริเวณอ่าวไทย...ภาคใต้ของประเทศไทย มีกำลังค่อนข้างแรงระดับพายุโซนร้อน

ต้องบอกว่า...พายุเหล่านี้มีกำลัง ไม่ได้เสียกำลังในการปะทะขอบฝั่ง เทือกเขา ถ้าเข้าอ่าวไทยจะอันตรายอย่างยิ่ง

พายุหมุนลูกสำคัญๆ ที่ก่อความเสียหายอย่างมาก...เดือนกันยายน 2485 พายุหมุนในโซนร้อนเข้าสู่ประเทศโดยผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ลูกติดต่อกัน ทำให้มีฝนตกหนักหลายแห่ง ตั้งแต่ภาคกลางขึ้นไป เกิดอุทกภัยทั่วไป โดยเฉพาะภาคกลาง มีระดับน้ำสูงมาก และน้ำท่วมนานเกือบเดือน

เดือนตุลาคม 2505 พายุหมุนในโซนร้อน กำลังขนาดพายุโซนร้อนชื่อ... แฮเรียต ก่อตัวที่ปลายแหลมญวน หมู่เกาะปูลูกองดอร์ เคลื่อนตัวเข้าอ่าวไทย แล้วขึ้นฝั่ง บริเวณแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านภาคใต้ลงสู่อ่าวมะตะบันไปลงอ่าวเบงกอล

พายุลูกนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,000 คน บ้านเรือนเสียหาย 40,000 หลัง ค่าเสียหายราว 100 ล้านบาท

ปลายเดือนพฤศจิกายน...ต้นเดือนธันวาคม ปี 2513 พายุโซนร้อนรู้ธ เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย ขึ้นฝั่งระหว่างจังหวัดชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ ลงสู่อ่าวมะตะบัน แล้ววก ขึ้นไปทางเหนือเลียบฝั่งประเทศพม่า ทำให้ฝนตกหนักทั่วไป น้ำท่วมถนนขาดหลายช่วง

อีกลูกที่ต้องพูดถึง เดือนตุลาคม 2532...ไต้ฝุ่นเกย์ ถล่มจังหวัดชุมพรและใกล้เคียง ระดับความรุนแรงเทียบเท่าพายุไซโคลน ไต้ฝุ่นเกย์ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นดีเปรสชัน และทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน เมื่อรวมกับกระแสลมฝ่ายตะวันตกพาดผ่านด้านตะวันตกและภาคเหนือก็เพิ่มกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ต้นเดือนพฤศจิกายน พายุเกย์เข้าสู่ฝั่งบริเวณอำเภอเมืองฯ อำเภอท่าแซะ และอำเภอปะทิว ทำให้มีพายุลมแรง และฝนตกหนัก ในรัศมี 50 กิโลเมตร

ผลจากพายุเกย์ มีผู้เสียชีวิต 800 คน เรือประมงอับปาง 520 ลำ ประชาชนเดือดร้อนนับแสนคน

สรุปได้ว่า...ความเสี่ยงที่สุดที่ประเทศไทยจะโดนพายุแบบเต็มๆ คือพายุที่เกิดใกล้อ่าวไทย เกิดขึ้นมาแล้ว ก็เคลื่อนตัวเข้าฝั่ง

ที่ต้องจับตาคือ ดีเปรสชัน เกิดขึ้นง่ายและเกิดบ่อย...แถมระยะหลังมักเกิดใกล้ฝั่ง ความน่ากังวล ถ้าฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลานานต้องระวังเรื่องน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

ศุภฤกษ์ บอกอีกว่า ดีเปรสชันมีทั้งลมแรง ฝนมาก เป็นพายุที่รุนแรง หากอยู่ใกล้ทะเล จะมีคลื่นรุนแรง

ถ้ายังจำกันได้...ปี 2550 ดีเปรสชันเกิดใกล้ฝั่ง ผ่านเข้าประจวบคีรีขันธ์ โชคดีที่...มาเร็วไปเร็ว เพราะหากแช่อยู่นานก็จะสะสมความรุนแรงจนน่ากลัว

อีกจุดสำคัญคือความเร็วในการเคลื่อนตัว รวมไปถึงสภาพภูมิประเทศที่พายุพัดผ่าน จะทำให้พายุชะลอตัวได้แค่ไหน

ก่อนหน้าที่จะเกิดดีเปรสชัน ต้องสังเกตว่า มีฝนตกต่อเนื่องหรือเปล่า ถ้ามี...ตกหนักแค่ไหน เพราะถ้าตกหนัก ตกนาน และมีดีเปรสชันเข้ามาเสริม โอกาสที่ดินโคลนถล่มจะมีมากขึ้น

ศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ทิ้งท้ายว่า

"พายุเป็นเรื่องที่ต้องระวัง...แต่ไม่ต้องหวาดกลัว วันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ทำให้การติดตาม เฝ้าระวัง รับสถานการณ์ได้ทันท่วงทีมากขึ้น มนุษย์ไม่สามารถ ควบคุมธรรมชาติได้...แต่ต้องเรียนรู้ในการอยู่กับธรรมชาติ"

1 Comment:

  1. ไม่ระบุชื่อ said...
    ขอบคุณมาก ๆ นะครับ

Post a Comment



 
Serenity Blogger Template